ไม่มีสินค้าในตะกร้า
ปัญหาพี่อิจฉาน้อง
เด็กเมื่อมีน้องจะรู้สึกอย่างไร ?
เด็กคงเลือกเกิดไม่ได้ว่าจะเกิดมาในครอบครัวแบบไหน น้องเกิดมาเพศอะไร หน้าตายังไง อารมณ์แบบใด แต่แน่นอนว่าคนที่มาใหม่นี้จะต้องมาแบ่งพ่อแม่ไป จากเดิมที่เคยได้รับความสนใจ 100% ก็เหลือแค่ครึ่งหนึ่ง
การที่พี่อิจฉาน้องเป็นพัฒนาการด้านหนึ่งหรือไม่ ?
เรียกว่าเป็นเรื่องปกติมากกว่า และพบได้บ่อยในเด็กช่วงอายุ 1-3 ปี สิ่งสำคัญก็คือว่า พ่อแม่จะช่วยให้เขาเป็นพี่ที่น่ารักได้อย่างไร เพราะส่วนใหญ่เมื่อคุณแม่กำลังวุ่นวายกับการดูแลน้อง
คนที่อยู่ดีๆกลายเป็นพี่จะพยายามทำยังไงก็ได้ให้ได้รับความสนใจเหมือนเดิม เช่น อาจจะต้องการให้แม่กอดหรืออุ้มมากขึ้น บางครั้งก็มีพฤติกรรมถดถอย กลับไปเป็นเหมือนเด็กเล็กอีก เช่น ดูดนิ้ว, กลับไปดูดขวดนมอีก หลังจากที่เคยเลิกได้แล้ว หรือ อาจจะก้าวร้าวเพิ่มขึ้น เช่น แกล้งน้อง ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ ถือเป็นเรื่องปกติ บางอย่างก็สามารถป้องกันได้ หรือดีขึ้นเองใน 2-3 เดือนหลังจากมีน้อง ที่สำคัญขอให้เข้าใจและอย่าไปดุว่าเด็ก เพราะจะทำให้เขารู้สึกไม่ชอบน้องมากขึ้น
พี่อิจฉาน้องทำไมถึงเป็นปัญหาของคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์
พฤติกรรมพี่อิจฉาน้อง เป็นพฤติกรรมที่พบได้ปกติสำหรับพี่ที่มีน้องใหม่ค่ะ โดยอาจแสดงออกในรูปแบบการมีพฤติกรรมกลับไปเป็นเด็กลง มีอาการดื้อ ก้าวร้าว ติดผู้เลี้ยงดูมากขึ้น เพิกเฉยกับน้อง พูดว่าไม่ชอบน้อง ไม่อยากมีน้อง จนสุดท้ายอาจมีพฤติกรรมแกล้งน้องได้ สาเหตุที่เด็กมีพฤติกรรมเหล่านี้เกิดได้จากเหตุผลหลายประการด้วยกัน ดังนี้
1. บอกลูกว่ามีน้องอยู่ในท้องแม่ ใช้คำง่ายๆ ตรงไปตรงมา น้ำเสียงอ่อนโยน เช่น “แม่ท้องใหญ่เพราะมีน้องอยู่ข้างใน พอน้องออกมาก็จะเป็นเพื่อนเล่นของหนูไง” “น้องดิ้นเพราะน้องรักหนูจ้ะ”
2. หมั่นให้ลูกแสดงความรักกับน้อง เช่น สัมผัสท้องแม่เวลาน้องดิ้น พูดคุยกับน้องในท้อง แนะนำตัวให้น้องรู้จัก กอดท้องแม่เหมือนกอดน้อง
3. พูดถึงน้องในแง่ดีเสมอ เช่น “แม่อุ้มหนูไม่ไหว แต่แม่กอดหนูได้เหมือนเดิม.นะ มาให้แม่กอดหน่อย” “เดี๋ยวเรามาเล่านิทานให้น้องฟังกัน หนูช่วยเลือกนิทานให้แม่หน่อยนะ”
4. ให้ลูกช่วยแม่ดูแลน้อง เช่น ชวนไปเลือกซื้อเสื้อผ้าเตรียมให้น้อง ช่วยตั้งชื่อน้อง ฯลฯ ทุกครั้งที่ลูกช่วยให้พ่อแม่ชื่นชม ลูกจะรู้สึกดีกับน้อง และค่อยๆ ซึมซับบทบาทของพี่ที่ดี
5. ให้เวลากับลูกเท่าเดิม หาเวลาอยู่กับลูก เช่น เล่นด้วยกัน อ่านนิทานด้วยกัน ไปเดินเล่น รับฟังความคิดเห็นของลูก
6. ไม่พูดกระทบจิตใจลูก เช่น “ถ้าน้องออกมา หนูจะเป็นหมาหัวเน่านะถ้ายังดื้อแบบนี้” “อย่าจับท้องแม่ เดี๋ยวน้องตกใจ” “หนูอย่างอแงสิ สู้น้องก็ไม่ได้”
7. ใช้นิทานเป็นตัวช่วย อ่านนิทานที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับพี่น้องให้ลูกฟัง จะช่วยให้ลูกซึมซับความรู้สึกของการเป็นพี่ได้ง่ายขึ้น จะเปลี่ยนชื่อตัวละครเป็นชื่อลูกและชื่อน้องแทนก็ได้
หากปล่อยไว้จะส่งผลเสียอย่างไรในอนาคต
ถ้าพ่อแม่ปล่อยไว้ แน่นอนว่าจะพลอยทำให้บรรยากาศในบ้านตึงเครียด รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างคุณพ่อคุณแม่เองด้วย เด็กเองจะมีความรู้สึกอยู่ตลอดว่า น้องได้รับความรักมากกว่า พ่อแม่ให้เวลามากกว่า ซึ่งส่งผลให้พี่รู้สึกว่าตนเองไม่มีค่า ไม่มีใครรัก ที่เลวร้ายที่สุด คืออาจถึงขึ้นลงมือทำร้ายกันได้
ดังนั้น การเตรียมตัวมีสมาชิกใหม่ในครอบครัวนั้น เป็นสิ่งที่น่ายินดี และน่าตื่นเต้น แต่อย่าลืมนึกถึงหัวใจน้อยๆ ของผู้ที่ต้องกลายเป็นพี่ด้วย แสดงออกให้เขาได้รับรู้ว่าความรักที่เรามีต่อเขานั้นก็ไม่ได้ลดลง อย่าปล่อยให้เขาเกิดความสงสัยอยู่ในใจตลอดว่าเรารักเขาไม่เท่ากัน
ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก
Passeducation และ โรงพยาบาลเวชธานี