ไม่มีสินค้าในตะกร้า
เมื่อลูกน้อยของคุณทานยาก
ปัญหายอดฮิตที่คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่มักพบเจอกันอยู่เสมอ คือ ปัญหาพฤติกรรมกินยาก และช่างเลือกของลูกรักโดยเมื่อถึงเวลาอาหารทีไรก็มักขัดแย้งกันบนโต๊ะอาหารทุกที เพราะลูกตั้งหน้าตั้งตาส่ายหน้าไม่กินนั่นไม่ชอบนี่ พร้อมกับปฏิเสธอาหารสารพันที่สรรหามาให้ตลอดเวลา ซึ่งไม่เพียงทำให้เราเกิดความรู้สึกหงุดหงิดที่จะต้องรบกับลูก แต่ยังเกิดความกังวลใจไปถึงในอนาคต เพราะกลัวว่าพฤติกรรมกินยาก แถมช่างเลือกจะทำให้ลูกกลายเป็นเด็กขาดสารอาหาร และมีพัฒนาการที่ไม่ดีไปในที่สุดอีกด้วยค่ะ
เราต้องทำความเข้าใจกับลูกก่อน
ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะเปิดฉากรบกับลูกเพื่อบังคับให้กินให้ได้ ขอให้ใจเย็น ๆ สักนิด คิดทบทวนกันสักหน่อยก่อน เพราะโดยปกติพฤติกรรมกินยากและช่างเลือกนี้มักเกิดขึ้นกับเด็กทั่วไปเช่นกันค่ะ โดยเฉพาะในช่วงวัย 1-3 ปีที่พบได้บ่อยมาก เพราะไม่เพียงลูกจะเริ่มโตขึ้น มีความต้องการที่จะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ทำให้รู้จักปฏิเสธมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องกิน แต่ช่วงวัย 1 ปียังเป็นช่วงที่ลูกได้รับอาหารที่มีลักษณะแข็งขึ้น ทำให้ต้องใช้เวลาในการบดเคี้ยวมากขึ้นและนานขึ้น จึงไม่ง่ายเหมือนดูดนมหรืออาหารบดเหลวที่กินได้สะดวกอย่างที่ผ่านมา ทำให้ลูกต้องใช้เวลาปรับตัวปรับใจอยู่มาก ซึ่งในระยะนี้เองจึงทำให้มีพฤติกรรมแสดงออกถึงความไม่ชอบ ไม่เต็มอกเต็มใจที่จะกิน ส่ายหน้าปฏิเสธ ไม่ชอบไปหมด จนกลายเป็นพฤติกรรมกินยากให้เราได้พบเห็นนั่นเองค่ะ
ลูกของคุณเข้าข่ายกินยาก รึเปล่า ?
คุณพ่อคุณแม่ที่ติดตามเรื่องราวมาถึงตรงนี้แล้ว บางท่านอาจยังไม่แน่ใจหรือสงสัยว่าลูกจะเป็นเด็กที่มีพฤติกรรมกินยากและช่างเลือกหรือไม่ ดังนั้น ช่วงเวลาต่อไปจากนี้ขอแนะนำให้ลองสังเกตพฤติกรรมของลูกดูให้ดี ๆ แล้วล่ะค่ะว่าลูกมี 7 สัญญาณพฤติกรรมการกินเหล่านี้ เกิดขึ้นบ้างหรือไม่
7 สัญญาณพฤติกรรมการกิน Checklist
- เลือกกินแต่อาหารที่ตัวเองโปรดปราน และต่อให้มีอาหารอย่างอื่นให้เลือกมากแค่ไหนก็ไม่สนใจกิน
- ชอบกินแต่อาหารที่ซ้ำ ๆ กันทุกวัน และเรียกร้องที่จะกินแต่อาหารชนิดนั้นอย่างเดียว
- เขี่ยอาหารที่ไม่ชอบออก แม้จะตักอาหารต่าง ๆ ใส่จานกันมากมายสักเพียงไหน ลูกก็คอยแต่จะเขี่ยออกไว้ข้างจานตลอด
- กินน้อย แม้จะทำอาหารให้ดูน่ากินขนาดไหน ลูกก็กินไม่หมดจาน เพียงกินนิดเดียวก็ทำท่าอิ่มเสียแล้ว
- กินอาหารช้าเป็นชั่วโมง ลูกจะละเลียดกิน เล็มกินทีละน้อย ๆ เคี้ยวได้ช้ามากจนคุณพ่อคุณแม่กินอิ่มไปนานแล้ว ลูกก็ยังกินไม่หมดจานสักที
- ชอบอมข้าว หรืออมอาหารค้างไว้ในปากนาน ๆ โดยไม่ยอมเคี้ยวข้าวหรืออาหาร แต่จะอมอยู่อย่างนั้น และไม่ยอมกลืนอาหารลงคอ แม้จะป้อนเพิ่มใหม่ ลูกก็ยังอมเพิ่มมากขึ้นจนเป็นคำโต
- ชอบกินขนม แต่ไม่ชอบกินผักผลไม้ จึงเลือกกินแต่ขนมของหวาน ของกินจุบกินจิบที่ไม่มีประโยชน์มากกว่าผลไม้ต่าง ๆ ที่สรรหามาให้เสมอ
4. วิธีฝึกเมื่อลูกน้อยของคุณทานยาก
คุณพ่อคุณแม่หลายๆบ้านคงจะพบเจอปัญหาเมื่อลูกน้อยของท่านทานอาหารยาก และทานอาหารได้น้อยมากๆ วันนี้ทาง Babi Goods เราได้รวบรวมวิธีการฝึกให้ลูกน้อยของคุณ ได้สนุกกับอาหารหลากหลาย โดยปกติแล้วเด็กวัย 10-12 เดือน เป็นวัยที่ควรเริ่มฝึกให้ลูกรับประทานอาหารมื้อหลัก 3 มื้อและลดปริมาณนมลง และในกรณีที่เด็กไม่ยอมรับประทาน อาหาร และร้องจะกินแต่นม คุณแม่คงต้องใช้ความใจเย็นในช่วงแรก และค่อยๆฝึกลูกน้อยอย่างต่อเนื่องเพื่อฝึกนิสัยและวินัยให้ลูกได้ทานมากขึ้น โดยมีวิธีดังนี้ฯ
1. ฝึกให้ลูกรับประทานอาหารเสริม
ฝึกให้ลูกน้อยทานอาหารเสริมวันละเล็กวันละน้อย แล้วค่อยๆลดปริมาณนมลง โดยปริมาณนมที่เหมาะกับเด็กวัยนี้คือ 16-24 ออนซ์
หรือวันละ 2-3 ขวด ขึ้นอยู่กับว่าลูกรับประทานอาหารได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของคุณได้ทานอาหารมากขึ้นมากกว่าการกินนม
2. เมื่อลูกเลือกกิน
เมื่อลูกเลือกกินเด็กวัยนี้ควรพยายามให้ลูกได้ลองทานอาหารที่เขาชอบก่อน เพื่อเราจะได้รู้ว่าลูกของเราชอบทานอะไรจริงๆแล้วค่อยฝึกให้ลูกได้ลองทาน ผัก,ผลไม้ หรือ อาหารที่มีประโยนช์ เพื่อให้ลูกได้ลองทานสิ่งใหม่ๆ และหลากลายมากขึ้น
3. ฝึกให้ลูกกินอาหารที่โต๊ะ
ฝึกให้ลูกทานอาหารที่โต๊ะเพราะเด็กวัยนี้ไม่ค่อยอยู่นิ่ง แทนที่คุณแม่จะวิ่งไล่ป้อนอาหาร ควรให้เขานั่งกินอาหารที่โต๊ะ หรือในเก้าอี้สำหรับรับประทานอาหารดีกว่าเพื่อฝึกระเบียบวินัย ให้ลูกน้อยได้ฝึกกินอาหารเองและช่วยเหลือตัวเองได้เพื่อพัฒนาการของลูกน้อยให้ไวขึ้นได้
4. สนุกกับอาหารหลากหลาย
ให้ลูกสนุกกับอาหารที่หลากลาย เด็กในวัยนี้เริ่มรับประทานอาหารได้หลายชนิด ดังนั้น เพื่อช่วยเขาเรื่องการเรียนรู้รสชาติ ควรให้เขาได้ลองรับประทานอาหารหลายๆ เพื่อให้ลูกได้ลองรสชาติใหม่ๆ เพื่อให้ลูกน้อยของคุณกินได้หลากหลายและกินได้มากขึ้นด้วย
แต่แล้วแบบอย่างของพ่อแม่คือสิ่งสำคัญที่สุด การเป็นต้นแบบในการกินอาหารที่มีประโยชน์ การมีพฤติกรรมการกินที่ดี ถือเป็นเรื่องสำคัญของการส่งเสริมนิสัยการกินให้ลูกได้เป็นอย่างดี อยากให้ลูกกินผัก ผลไม้ ดื่มนม หรืออาหารอื่นใด เราต้องกินอย่างเต็มใจให้ลูกเห็น พร้อมกับชี้แนะประโยชน์ของอาหารต่าง ๆ ให้ลูกรู้จักกินได้อย่างมีคุณค่าตั้งแต่วันนี้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก
ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยมหิดล